ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

การค้นพบครั้งสำคัญซากสิงโตอายุ55,000ปีที่สมบูรณ์ที่สุดในไซบีเรีย

การค้นพบครั้งสำคัญ! ซากสิงโตที่สมบูรณ์ที่สุดในไซบีเรีย ที่อาจอธิบายการสูญพันธุ์ของแมมมอธได้

การค้นพบที่น่าตื่นตาตื่นของนักสำรวจและนักวิทยาศาสตร์ เมื่อซากของลูกสิงโตสองตัวถูกพบในชั้นดินบริเวณเขตไซบีเรียประเทศรัสเซีย ในสภาพที่สมบูรณ์ชนิดที่ว่านักวิทยาศาสตร์ยังทึ่ง! เพราะมันอาจมีอายุมากถึง 55,000 ปี

แต่มันเหมือนเพิ่งจะตายได้ไม่กี่เดือนลูกสิงโตสองตัวนี้ถูกพบในช่วงฤดูร้อนปี 2015 ในเขตไซบีเรีย ที่คาดว่าทั้งสองตัวเป็นพี่น้องกัน เป็นสิงโตที่สูญพันธุ์ไปเมื่อ 10,000 ปีก่อนคริสตกาล
ทั้งคู่มีอายุ่ราว 1-2 สัปดาห์เท่านั้นก่อนเสียชีวิต ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตภายในถ้ำที่ถล่มลงมาในยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยถูกสันนิษฐานว่ามีอายุราว 12,000 สองพันปีในตอนแรก แต่ภายหลังพบว่าอาจมีอายุถึง 55,000 ปีโดยประมาณ 

เพิ่มคำอธิหลังตรวจสอบเพอร์มาฟรอสท์ (Permafrost) หรือชั้นดินที่อยู่ในสภาพต่ำกว่าจุดเยือกแข็งพบว่าเป็นสัตว์ที่อยู่ในยุคน้ำแข็ง 25,000 ถึง 55,000 ปีก่อนที่รู้จักในชื่อ “สิงโตถ้ำ”หรือ Panthera leo spelaea
นักวิเคราะห์ได้ทำการสแกนด้วย CT scan พบว่า มีของเหลวบางอย่างอยู่ภายในกระเพาะอาหารที่คล้าย “น้ำนมของแม่สิงโต”
หรือของเหลวบางชนิด แต่ด้วยซากของลูกสิงโตเป็นสิ่งที่สำคัญและค่อนข้างบอบบางทำให้ยังไม่สามารถที่จะผ่าหรือนำของเหลวออกมาทำการตรวจพิสูจน์ได้ แล้วหากเหลวภายในกระเพาะของลูกสิงโตเป็นน้ำนมของแม่สิงโตจริงๆ พวกเขาจะสามารถวิเคราะห์สิ่งที่แม่สิงโตจากยุคโบราณกินเป็นอาหารเมื่อราวหมื่นปีก่อนได้อย่างละเอียด แล้วมันอาจนำไปสู่คำตอบว่าทำไม่สิงโตถ้ำเหล่านี้ถึงสูญพันธุ์

แต่ด้วยวิทยาการสมัยใหม่ยังไม่มีเครื่องมือใดที่สามารถวิเคราะห์อวัยวะภายในของซากลูกสิงโตทั้งสองโดยไม่สร้างความเสียหาย มันจึงถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี เพื่อรอความก้าวหน้าของอุปกรณ์ที่จะไม่ส่งผลต่อซากของสัตว์โบราณชนิดนี้ โดยหวังว่าวันนึงเราจะทราบว่าทำไมสิงโตถ้ำที่อยู่ในยุคเดียวกับแมมมอธถึงสูญพันธ์ุไปจากโลกที่ยังคาใจใครหลายคนได้.
Panthera leo spelaea

สัตว์ปีศาจสยองBunyip


สัตว์ปีศาจสยอง! ‘Bunyip’ ตำนานสัตว์ประหลาดสุดโหดแห่งออสเตรเลียที่ออกล่ามนุษย์เป็นอาหาร

Bunyip คือชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดที่ปรากฏอยู่ในตำนานเรื่องเล่าของชาวอะบอริจิน ว่ากันว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำทั่วออสเตรเลียเมื่อนานแสนนานมาแล้ว ก่อนที่ชาวอะบอริจินจะเข้ามาอยู่ในออสเตรเลียเสียอีก เมื่อขึ้นชื่อว่าสัตว์ประหลาดแน่นอนว่ารูปร่างของมันย่อมไม่เหมือนกับสัตว์ทั่วไป 

ซึ่งชาวอะบอริจินเองก็ได้อธิบายลักษณะของเจ้า Bunyip ว่า สัตว์ประหลาดตัวนี้มีหน้าเหมือนกับสุนัขพันธุ์บูลด็อก คอของมันค่อนข้างยาว และมีปากคล้ายกับนกอีมู อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำ โดยชาวอะบอริจินเชื่อว่า Bunyip ไม่ได้เป็นสัตว์ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ แต่เป็นสัตว์ที่ถือกำเนิดจากสิ่งชั่วร้ายที่สิงสถิตอยู่ในแหล่งน้ำนั้นๆ หรือจะเรียกว่ามันคือปีศาจในคราบของสัตว์ประหลาดก็ได้เช่นกัน

Bunyip เป็นสัตว์ประหลาดที่มีนิสัยดุร้ายเป็นอย่างมาก หากใครเข้าไปใกล้กับแหล่งน้ำที่มันอยู่อาศัย ก็จะโดนมันจับกินเป็นอาหารทันที นอกจากนี้มันยังมีเสียงคำรามที่ดังกึกก้องมากๆ โดยมันจะคำรามทุกครั้งที่ล่าเหยื่อ และทุกครั้งที่ฝนเริ่มตก ทว่ามันกลับไม่ได้เป็นสัตว์ประหลาดที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำตลอดเวลา เพราะเมื่อถึงฤดูร้อนที่น้ำแห้งหายไปเจ้า Bunyip ก็จะหายตัวไปด้วย 
โดยมันไมได้ย้ายถิ่นฐานไปไหนแต่จะฝังตัวอยู่ใต้โคลนเพื่อรอให้ฤดูฝนมาถึงอีกครั้งอย่างไรก็ดีตำนานเรื่องเล่าของ Bunyip ไม่ได้ปรากฏอยู่ในเรื่องเล่าของชาวอะบอริจินเพียงอย่างเดียว
เท่านั้น 

ยังปรากฏอยู่ในเรื่องเล่าของชาวตะวันตกที่ได้เดินทางมาออสเตรเลีย และได้พบกับเจ้า Bunyip ในช่วง ค.ศ. 1800 โดยชาวตะวันตกอธิบายลักษณะของเจ้า Bunyip ว่า “สัตว์ประหลาดตัวนี้มีขา 4 ขา ในแต่ละขาจะมีเล็บทั้งหมด 3 เล็บ มันมีขนาดลำตัวยาวประมาณ 10 – 12 ฟุต ที่บริเวณแผ่นหลังของมันมีขนขึ้นปกคลุมยาวไปจนถึงส่วนที่มีลักษณะคล้ายกับหาง ซึ่งในส่วนที่คาดว่าจะเป็นหางนี้ยังมีลักษณะเหมือนกับ ครีบหางของปลาอีกด้วย”

โดยปี 1800 ถือเป็นปีที่มีรายงานการพบเห็น Bunyip บ่อยมากที่สุด เพราะมีรายงานการพบเห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้ไปทั่วออสเตรเลียเลยทีเดียว ที่น่าสนใจก็คือทุกคนที่พบเห็นสามารถอธิบายลักษณะของสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ค่อนข้างเหมือนกัน ทำให้หลายคนเชื่อว่าเจ้าสัตว์ประหลาด Bunyip น่าจะมีตัวตนอยู่จริง ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องเล่าของ Bunyip ยังมีจุดเริ่มต้นมาจากชาวอะบอริจิน ซึ่งโดยปกติแล้วชาวอะบอริจิน มักจะมีลักษณะนิสัยที่ชอบเขียนภาพต่างๆ ในสิ่งที่พวกเขาพบเจอ และหลายภาพก็ได้กลายเป็นหลักฐานอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญของออสเตรเลียอีกด้วย 

น่าแปลกที่เรื่องราวของ Bunyip กลับไม่มีปราฏอยู่ในภาพเขียนของชาวอะบอริจิน หลายคนจึงเชื่อว่าที่มีตำนานเรื่องเล่าแต่ไม่มีภาพวาดเป็นเพราะชาวอะบอริจินเองก็กลัวเจ้า Bunyip จนไม่กล้าเข้าใกล้ที่อยู่อาศัยของมันเช่นกัน
ทำให้จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่าสัตว์ประหลาด Bunyip ในตำนานของชาวอะบอริจิน ที่กลายเป็นเรื่องเล่ามาอย่างยาวนานหลายศตวรรษแท้จริงแล้วมันมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่?