ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

จากดินสู่ดาวจูหยวนจางปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง

จากดินสู่ดาว! ‘จูหยวนจาง’ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง ผู้มีชาติกำเนิดมาจากสามัญชนที่แสนยากจน
ในความเข้าใจของผู้คนส่วนใหญ่คงเข้าใจว่า ผู้ที่จะกลายเป็นจักรพรรดิแห่งแผ่นดินจีนได้ จะต้องเป็นชนชั้นสูง หรือไม่ก็เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเชื้อพระวงศ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในประวัติศาสตร์จีนได้เคยกล่าวถึงจักรพรรดิพระองค์หนึ่ง ซึ่งพระองค์ไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์ หรือกระทั่งชนชั้นสูงมาก่อน แต่พระองค์เป็นเพียงคนยากจน ที่ไต่เต้าจากระดับที่ต่ำสุดมาสู่ระดับที่สูงสุด จนได้เป็นจักรพรรดิแห่งแผ่นดิน จีน และพระนามของพระองค์ก็คือ ‘จักรพรรดิหงอู่’ แต่เดิมพระองค์มีชื่อว่า ‘จูหยวนจาง’

จูหยวนจางเกิดในครอบครัวของสามัญชนธรรมดา มีฐานะยากจนมากใช้ชีวิตแบบอัตคัดขัดสน หาผักหญ้ารับประทานเพื่อให้มีชีวิตรอดในแต่ละวัน ไม่นานนักพ่อแม่และพี่ชายคนโตก็ได้เสียชีวิตจากปัญหาความอดยาก ส่งผลให้พี่น้องที่เหลือต้องแยกกันออกไปทำมาหากิน จูหยวนจางตัดสินใจบวชเณร

เนื่องจากในขณะนั้นยังเป็นเด็กอยู่ หลังบวชเรียนจนมีความสามารถทางด้านการอ่านเขียน ก็ได้ตัดสินใจสึกเนื่องจากในขณะนั้นบ้านเมืองได้เกิดปัญหาภายใน เมื่อเริ่มมีกลุ่มกบฎขับไล่จักรวรรดิมองโกลออกจากแผ่นดินจีน จนได้เข้าร่วม ‘ลัทธิบัวขาว’ เพื่อก่อ ‘กบฏโพกผ้าแดง’ โค่นล้มราชวงศ์หยวน

ด้วยคุณงามความดีและความสามารถทางด้านการรบ ทำให้จูหยวนจางได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว แต่แล้วก็มีเหตุที่ทำให้ต้องออกจากลัทธิบัวขาว หลังจากนั้นจึงกลับไปยังบ้านเกิดอีกครั้ง ด้วยความสามารถและเป็นที่รู้จักไปทั่ว พระองค์จึงมีแผนจัดตั้งกองกำลังของตนเองขึ้น จากการชักชวนเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องในบ้านเกิดของตนเอง ช่วงแรกของการจัดตั้งกองกำลังสามารถรวบรวมกำลังพลได้มากถึง 700 คน ก่อนที่กำลังพลจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 คน ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี

ในเวลาต่อมาพระองค์ถูกเรียกตัวกลับไปยังลัทธิบัวขาวอีกครั้ง เนื่องจากลัทธิบัวขาวไร้ผู้นำกองกำลัง จูหยวนจาง เร่งนำกองกำลังที่มีทั้งหมดบุกถล่ม เมืองต้าตู เมืองหลวงของราชวงศ์หยวนในทันที ด้วยความยิ่งใหญ่ของกองทัพจูหยวนจาง จักรพรรดิราชวงศ์หยวนจึงหลีกเลี่ยงการทำสงคราม พร้อมกับนำราชวงศ์และชาวมองโกลหลบหนีออกจากเมือง เมื่อจูหยวนจางสามารถยึดเมืองได้พระองค์จึงได้ สถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิในนาม ‘หมิงไท่จู่’ พร้อมประกาศตั้งราชวงศ์ต้าหมิง ในปี ค.ศ. 1367
ด้วยความที่พระองค์เคยเป็นคนยากจนมาก่อน ทำให้พระองค์มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชนอย่างแท้จริง พระองค์เข้าแทรกแซงอำนาจของเหล่าขุนนาง เพื่อไม่ให้ขุนนางคิดกระทำสิ่งใดได้ตามอำเภอใจอีกต่อไป ทุกอย่างต้องผ่านการเห็นชอบจากพระองค์ก่อน เนื่องจากพระองค์ทรงเห็นว่าสิ่งนี้กลายเป็นช่องวางให้เหล่าขุนนางพากันขูดรีดประชาชน เรียกได้ว่าอำนาจใดๆก็ตาม ที่ทุกฝ่ายเคยมีอำนาจเหล่านั้นไม่มีอีกแล้วในแผ่นดินของพระองค์ เนื่องจากพระองค์กุมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอย่างแท้จริง

ทำให้ตลอดรัชสมัยของพระองค์บ้านเมืองค่อนข้างสงบร่มเย็น เนื่องจากพระองค์ทำการปราบผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะก่อกบฏในอนาคตจนหมดสิ้น ประมาณการว่าการปราบกบฏในครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อยห้าหมื่นคนเลยทีเดียว จักรพรรหมิงไท่จู่ เสด็จสวรรคตในปี 1398 ครองแผ่นดินนานเป็นเวลา 30 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1368 – 1398 ขณะมีพระชนมายุ 70 พรรษา จักรพรรดิหมิงไท่จู่ ถือเป็นจักรพรรดิเพียงพระองค์เดียวแห่งราชวงศ์จีน ที่เริ่มต้นจากการเป็นคนจน ไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ จนกระทั่งเป็นจักรพรรดิได้สำเร็จ