👉ไขปริศนา! สายการบิน
HELIOS เที่ยวบินที่ 522 โศกนาฏกรรมเครื่องบินตกสุดแปลกที่สร้างความสับสนไปทั่วโลก
ค้นหา
Custom Search
ย้อนกลับไปในวันที่ 14 สิงหาคม ปี 2005 เครื่องบินจากสายการบิน Helios Airways เที่ยวบินที่ 522 ได้เดินทางออกจากสนามบินในประเทศไซปรัส เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ซึ่งโดยปกติการเดินทางระหว่าง 2 ประเทศ จะใช้เวลาเพียง 1.30 ชั่วโมงโดยประมาณ
แต่ในวันนั้น HELIOS 522 กลับใช้เวลาในการเดินทางไปแล้วกว่า 2 ชั่วโมง และเครื่องบินก็ได้เข้าสู่น่านฟ้าของประเทศกรีซ โดยที่ไม่มีท่าทีว่าจะลงจอดแต่อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นหอบังคับการบินยังไม่สามารถติดต่อนักบินได้ ทางการกรีซจึงสันนิษฐานว่า HELIOS 522 อาจถูกจี้ ซึ่งหากเครื่องบินถูกจี้
และถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับก่อเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นมา พลเมืองกรีซอาจต้องสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นทางการกรีซจึงได้อนุมัติคำสั่งให้นำเครื่องบิน F-16 ขึ้นไปสังเกตการณ์ แต่สิ่งที่นักบินประจำเครื่องบิน F-16 เห็นก็คือผู้โดยสาร และ ลูกเรืออยู่ในอาการหลับคาหน้ากากออกซิเจนที่ร่วงลงมา และเมื่อมองไปที่ห้องนักบินยังพบชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ในอาการหลับ กำลังพยายามควบคุมเครื่องบินอยู่อีกด้วย ทั้งนี้ชายคนดังกล่าวยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อนักบินประจำเครื่องบิน F-16 ที่พยายามส่งซิกแต่อย่างใด ทันใดนั้นเองเครื่องบิน HELIOS 522 ก็เริ่มลดระดับลง จนกระทั่งตกสู่พื้นดินในที่สุด
ผู้โดยสาร 115 คน และลูกเรืออีก 6 ชีวิต บนเครื่องบิน HELIOS 522 เสียชีวิตทั้งหมด การตกของเครื่องบินนำมาสู่ปริศนามากมายที่ไม่มีใครอธิบายได้ในช่วงเวลานั้น เนื่องจากสิ่งที่นักบินบนเครื่องบิน F-16 ให้การสร้างความสับสนให้กับทีมสืบสวนเป็นอย่างมาก เริ่มต้นที่ผู้โดยสารและลูกเรืออยู่ในอาการหลับ อีกทั้งยังมีชายลึกลับอยู่ในห้องนักบินโดยที่เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่หลับ และสิ่งเดียวที่จะทำให้ปริศนาทั้งหมดคลี่คลายก็คงจะหนีไม่พ้นการตรวจสอบกล่องดำ หรือเทปบันทึกการบินของเครื่องบิน HELIOS 522
ซึ่งสิ่งที่ทีมสืบสวนได้รับก็คือ ขณะขึ้นบินได้ซักพักเครื่องบิน HELIOS 522 ได้ส่งสัญญาณเตือนเป็นจำนวน 2 ครั้ง โดยเสียงเตือนดังกล่าวเป็นเสียงการเตือนระบบไฟฟ้าทำงานขัดข้องภายในเครื่องบิน หลังจากนั้นภาคพื้นดินก็ไม่สามารถติดต่อเครื่องบิน HELIOS 522 ได้อีกเลย ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวทีมสืบสวนสันนิษฐานว่าทุกคนบนเครื่องบินน่าจะหลับหมดแล้ว ไม่นานนักกล่องดำก็สามารถบันทึกเสียงของชายคนหนึ่งได้อีกครั้ง ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนเครื่องตก
โดยชายคนดังกล่าวพูดว่า “เหตุฉุกเฉิน เหตุฉุกเฉิน” ก่อนที่เครื่องบินจะโหม่งโลกในที่สุด
ทีมสืบสวนจึงได้ตรวจสอบซากเครื่องบินในชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า เนื่องจากสิ่งที่สัญญานเตือนนั้นอาจเกี่ยวข้องกับสาเหตุที่ทำให้เครื่องตก และสิ่งที่ทีมสืบสวนได้พบก็คือแผงควบคุมอากาศบนเครื่องบินถูกปรับเป็นระบบ “ควบคุมเอง” ซึ่งมันไม่ถูกต้องเลยเพราะจริงๆแล้ว แผงควบคุมอากาศควรปรับให้อยู่ในระบบ “ควบคุมอัตโนมัติ”
สิ่งนี้เป็นหลักฐานช่วยยืนยันว่าทำไมทุกคนบนเครื่องบินจึงมีลักษณะคล้ายกับกำลังนอนหลับ ซึ่งแท้จริงแล้วพวกเขาไม่ได้หลับ แต่เป็นเพราะบนเครื่องบินมีอากาศไม่เพียงพอ เนื่องจากแผงควบคุมตั้งอยู่ในระบบควบคุมเอง ซึ่งภายในเครื่องบินยังคงอากาศไว้เท่าเดิม แต่เมื่อเครื่องบินไต่ระดับไปในความสูงที่เพิ่มขึ้นความดันอากาศทำให้อากาศภายในเครื่องบินลดต่ำลง จนกระทั่งไม่เหลืออากาศและเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกคนบนเครื่องบินหมดสติไปในที่สุด
นอกจากนี่ทีมสืบสวนยังได้ตรวจสอบเนื้อเยื่อที่ผิดปกติบริเวณที่นั่งนักบิน ซึ่งพบเนื้อเยื่อของบุคคลที่ต่างกันปะปนอยู่ในเบาะเดียวกัน ซึ่งนี่อาจเป็นหลักฐานที่ช่วยยืนยันว่าชายปริศนาที่นักบิน F-16 เห็นคือใคร และผลการตรวจสอบก็พบว่าเนื้อเยื่อดังกล่าวเป็นของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับที่กล่องดำสามารถบันทึกเสียงขอความช่วยเหลือเอาไว้ได้
ทั้งนี้ทีมสืบสวนได้พยายามขุดประวัติของพนักงานบริการคนนี้ เพื่อตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายหรือไม่ แต่ก็ไม่พบว่าเขามีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และดูเหมือนขณะที่เครื่องใกล้ตกเขาพยายามจะนำเครื่องบินลงจอดเสียด้วย เนื่องจากเขาเป็นถึงอดีตนักเรียนการบินที่เคยผ่านการขับเครื่องบินมาแล้ว นอกจากนี้ทีมสืบสวนยังพบว่าเขาเป็นถึงอดีตนักดำน้ำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะมีความสามารถในการควบคุมลมหายใจได้มากกว่าคนอื่น และเป็นเพียงคนเดียวของเครื่องบินที่ยังไม่หมดสติ
โดยสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกแบ่งเป็น 2 สาเหตุสำคัญ คือ
1. เครื่องบินน้ำมันหมด เพราะโดยปกติแล้วน้ำมันของเครื่องบินจะถูกตามระยะทางการบิน หรือเผื่อในกรณีฉุกเฉินที่เครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ แต่กับ HELIOS 522 เครื่องบินลอยตัวอยู่เกือบ 3 ชั่วโมงทำให้น้ำมันไม่เพียงพอ
2. แผงควบคุมอากาศ ความผิดพลาดของแผงควบคุมอากาศ เกิดจากทีมตรวจสอบการทำงานของเครื่องบิน เผลอหมุนสวิทช์ไปตำแหน่ง ‘ควบคุมเอง’
ในขณะที่พวกเขากำลังตรวจสอบการทำงานของมัน ซึ่งโดยปกติแล้วหลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบพวกเขาควรปรับกลับไปที่ ‘ควบคุมอัตโนมัติ’ แต่พวกเขากลับลืม และนักบินก็ไม่ได้ตรวจสอบให้เรียบร้อย จึงนำมาสู่โศกนาฏกรรมสุดสยองในที่สุด