📰เจอแล้วเรือดำน้ำที่หายไป 100 ปี จมก้นทะเลตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1
บีบีซีรายงานว่าทางการออสเตรเลียออกมาเปิดเผยการพบซากเรือดำน้ำตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือประมาณร้อยปี
ที่ผ่านมา โดยการค้นพบดังกล่าวเป็นการไขความลึกลับที่หลายฝ่ายเคยเคลือบแคลงสงสัยมานาน
ทางการออสเตรเลียออกมาเปิดว่าพบเรือดำน้ำ เฮชเอ็มเอเอส เออี-1 ซึ่งเป็นเรือดำน้ำลำแรกที่ฝ่ายพันธมิตรสูญเสียพร้อมกับลูกเรือชาวอังกฤษและออสเตรเลีย 35 นาย ไปในสงครามโลกครั้งที่ 1 ช่วงปี 2457
หลังจากอับปางนอกชายฝั่งเมืองราบาอู ประเทศปาปัวนิวกินี
การค้นพบครั้งนี้เจอบริเวณชายฝั่งของเกาะดยุกออฟยอร์ก ในประเทศปาปัวนิวกินี ซึ่งการค้รพบดังกล่าวทางทีมค้นหาได้ใช้โดรนใต้น้ำดำลึกลงไปในทะเลประมาณ 40 เมตร และพบซากเรือจมลึกลงไปกว่า 300 เมตร
ทีมค้นหาใช้โดรนใต้น้ำเพื่อค้นหาซาก
น.ส.มาริส เพย์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย กล่าวถึงการค้นพบครั้งนี้ว่าเป็นหนึ่งในการค้นพบครั้งประวัติศาสตร์ของการเดินเรือออสเตรเลีย พร้อมกล่าวว่าเรือดำน้ำที่พบเป็นเรือดำน้ำของราชนาวีออสเตรเลียและฝ่ายสัมพันธมิตรที่สูญเสียไปในสงครามโลกครั้งที่ 1 ตลอดจนเป็นโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญสำหรับออสเตรเลียและชาติพันธมิตร
น.ส.มาริส เพย์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย กล่าวถึงการค้นพบครั้งนี้ว่าเป็นหนึ่งในการค้นพบครั้งประวัติศาสตร์ของการเดินเรือออสเตรเลีย พร้อมกล่าวว่าเรือดำน้ำที่พบเป็นเรือดำน้ำของราชนาวีออสเตรเลียและฝ่ายสัมพันธมิตรที่สูญเสียไปในสงครามโลกครั้งที่ 1 ตลอดจนเป็นโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญสำหรับออสเตรเลียและชาติพันธมิตร
ทั้งนี้ ทางทีมค้นหากำลังจัดเตรียมหาข้อมูลผู้เสียชีวิตในเรือดำน้ำลำดังกล่าวตลอดจนรัฐบาลปาปัวนิวกินีเพื่อแจ้งไปยังญาติของทหารที่เคยประจำอยู่ในเรือดำน้ำลำดังกล่าว นอกจากนี้รัฐมนตรีกลาโหมยังกล่าวด้วยว่าทางออสเตรเลียอาจจะหาสาเหตุเพิ่มเติมถึงต้นตอของการจมดิ่งลงสู่ก้นมหาสมุทรของเรือดำน้ำลำนี้
ทีมค้นหา
นอกจากนี้ในเว็บไซต์ซีเวฟได้รายงานถึงเรือดำน้ำลำนี้ไว้ว่าได้หายอย่างไร้สาเหตุในช่วงระหว่างที่กำลังลาดตระเวนอยู่นอกชายฝั่งปาปัวนิวกินี และก่อนหน้านี้ไม่เคยมีผู้ใดพบศพหรือซากเรือมาก่อน
นอกจากนี้ในเว็บไซต์ซีเวฟได้รายงานถึงเรือดำน้ำลำนี้ไว้ว่าได้หายอย่างไร้สาเหตุในช่วงระหว่างที่กำลังลาดตระเวนอยู่นอกชายฝั่งปาปัวนิวกินี และก่อนหน้านี้ไม่เคยมีผู้ใดพบศพหรือซากเรือมาก่อน
นอกจากนี้เรื่องการหายไปของเรือดำน้ำ
ลำดังกล่าวถูกเบียดบังออกจากหน้าประวัติศาสตร์ โดยเรื่องศึกทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นการปะทะกันระหว่างทหารอังกฤษและทหารจากเยอรมัน รวมถึงศึกที่กัลลิโปลิ หรือการฉากสงครามระหว่างอาณาจักรอ็อตโตมัน กับอังกฤษ ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เช่นเดียวกัน
ลำดังกล่าวถูกเบียดบังออกจากหน้าประวัติศาสตร์ โดยเรื่องศึกทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นการปะทะกันระหว่างทหารอังกฤษและทหารจากเยอรมัน รวมถึงศึกที่กัลลิโปลิ หรือการฉากสงครามระหว่างอาณาจักรอ็อตโตมัน กับอังกฤษ ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เช่นเดียวกัน