ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

เรื่องเร้นลับของป่าอาถรรพ์ในอเมริกา ที่เด็กชายนับสิบคนหายไปอย่างไร้ร่องรอย

👽ป่ากินเด็ก! เรื่องเร้นลับของป่าอาถรรพ์ในอเมริกา ที่เด็กชายนับสิบคนหายไปอย่าง
ไร้ร่องรอย ฝีมือมนุษย์หรือสิ่งที่มองไม่เห็น?
อุทยานแห่งชาติ Angeles ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกยกให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติตั้งแต่ปี 1908 เป็นผืนป่าที่มีประวัติศาสตร์สำคัญของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยผืนป่าแห่งนี้มักจะเกิดเหตุไฟป่าครั้งใหญ่อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ได้รับความนิยมในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่เหล่านักผจญภัยมักจะมาตั้งแคมป์กันอยู่เสมอ

แต่อีกด้านของป่าแห่งนี้นั้นถูกกล่าวขานในฐานะป่าอาถรรพ์ที่กลืนกินเด็กอย่างไร้ร่องรอยมานับสิบคน เรื่องราวของป่าแห่งนี้ถูกร่ำลือขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ1960 เมื่อเด็กชายอายุ 13 ปีสองคนที่มาปิคนิคกับครอบครัวและออกไปขี่จักรยานเล่นภายในพื้นที่รอบๆ บริเวณที่ทางอุทยานได้จัดเป็นพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ แต่ทว่าเด็กชายทั้งสองคนไม่เคยได้กลับมาหาครอบครัวอีกเลย

เจ้าหน้าที่จึงทำการออกค้นเป็นระยะเวลากว่า 7 วันก็ไม่พบร่างของเด็กชายทั้งสองคน พบก็เพียงจักรยานที่ถูกจอดไว้ริมแม่น้ำพร้อมกับเสื้อแจ็คเก็ตเพียงเท่านั้น เหตุการณ์เด็กหายในป่านั้นก็เกิดขึ้นในอีกหนึ่งปีให้หลัง เด็กชายวัย 8 ขวบและผู้เป็นแม่ ได้เดินเข้ามายังป่าข้างๆ จุดกางเต็นท์ที่เดียวกับที่เด็กชายทั้งสองคนหายตัวไป ซึ่งแม่ของเด็กเล่าให้ฟังในภายหลังว่าลูกชายวิ่งนำออกไปและเลี้ยวเข้าทางเดินที่มีลักษณะเป็นทางโค้งและลับตาไป ซึ่งผู้เป็นแม่ก็วิ่งตามเมื่อพ้นทางโค้งก็พบว่ามองไม่เห็นลูกชายของตนแล้ว

การตามหาในครั้งนี้เจ้าหน้าที่พบแค่รอยเท้าตรงจุดทางโค้งที่เด็กชายลับจากสายตาผู้เป็นแม่เท่านั้น เหมือนกับว่าจู่ๆ เด็กชายก็หายไปซะเฉยๆ ความอาถรรพ์ยังไม่จบเพียงเท่านี้ อีกสองปีถัดมา เด็กชายวัยหกขวบที่มาตั้งแคมป์ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ลูกเสือรวมทั้งหมด 80 คน ก็ได้หายไปในขณะที่กำลังเดินทางไกล โดยเด็กชายจะขอตัวผู้ควบคุมหมู่ไปทำธุระส่วนตัว ซึ่งผู้ควบคุมก็ได้เดินพาเด็กชายไปทำธุระที่หลังต้นไม้ โดยให้เด็กชายอ้อมไปที่ต้นไม้อีกฝั่ง หลังจากนั้นเด็กชายก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เรื่องราวอาถรรพ์ของ “ป่ากินเด็ก” นั้นกลายเป็นที่หวาดกลัวของคนในพื้นที่ บ้างก็ว่าเป็นวิญญาณของชาวอินเดียนแดงที่ลักพาตัวเด็กไป บ้างก็ว่าเป็นสัตว์ลึกลับที่มีลักษณะคล้ายลิงไร้หางขนาดใหญ่ที่โหนต้นไม้มาโฉบเด็กๆ ไปเพื่อนำไปเลี้ยงไว้ดูเล่น ซึ่งเรื่องราวที่เป็นปริศนานี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับพรานป่าผู้หนึ่งที่อาศัยอยู่บริเวณป่า เขาถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการหายตัวของเด็กๆ ทั้งหมด จนสุดท้ายก็เกิดความกดดันจนต้องฆ่าตัวตายไป สุดท้ายเมื่อพรานป่าตายไปเหตุการณ์เด็กหายภายในป่าก็ยังคงเกิดขึ้น โดยไม่เคยมีใครพบร่างเด็กที่หายไปเลยแม้แต่คนเดียว เรื่องราวทั้งหมดจึงยังเป็นปริศนา